มีหนังออนไลน์หลายๆเรื่องที่น่าดูเป็นอันมาก จำต้องบอกเลยว่ามีหลายสิ่งที่ได้เปลี่ยนไปมากมายก่ายกอง การที่เทคโนโลยีได้เปลี่ยนไปอยู่เสมอเวลาก็เลยทำให้การดูภาพยนตร์สักเรื่องในสมัยปัจจุบันนี้มันง่ายยิ่งกว่าเมื่อก่อน แม้กระนั้นบอกเลยว่าหนังบางเรื่องนั้นแม้ว่าจะเก่าจะแก่ขนาดไหนแม้กระนั้นก็เป็นหนังดีที่ยังคงค่าเสมอ วันนี้เราจะพามาคุณมารู้จักกับหนังดั้งเดิมและก็ดีพวกนั้น ซึ่งคุณไม่สมควรจะพลาดเด็ดขาดหนังดีตลอดไปที่คุณไม่ควรพลาด1. Ratatouilleเป็นหนังที่ผลิตขึ้นมาได้สร้างสรรค์อย่างยิ่ง ยกหนูเลอะเทอะๆตัวหนึ่งที่แน่ๆว่าคนไหนกันก็ต่างพากันรังชังแน่นอน เพราะเหตุว่าหนูกับร้านอาหารเป็นของที่ไม่ถูกกันเป็นอย่างยิ่ง แต่หนูในเรื่องนี้เป็นหนูที่มีความฝันที่อยากจะเป็นเชฟ อีกทั้งยังสามารถประกอบอาหารได้อร่อยกว่ามนุษย์ซะอีก เว้นแต่เรื่องราวจะดีแล้วในหนังนี้ อนิเมชั่นด้านกราฟิกก็สวยงามเชื้อเชิญให้น่าติดตามเอามากๆถึงแม้ว่าจะเป็นอนิเมชั่นของเด็กแต่ก็สามารถที่จะมองได้อีกทั้งเด็กรวมทั้งคนแก่ เป็นอนิเมชั่นที่พลาดไม่ได้อีกหัวข้อนึงที่คุณจึงควรมอง2. Iron Manพูดจากดวงใจเลยว่าเป็นหนังที่เปิดตัวซุปเปอร์ฮีโร่ที่ดีเยี่ยมๆอีกเรื่องหนึ่ง แถมยังเป็นเรื่องที่เป็นขวัญใจของคนจำนวนไม่น้อยอย่างยิ่ง อีกทั้งยังควบตำแหน่งคนสำคัญของอาณาจักร Super Hero Marvel อีกด้วย ในประเด็นนั้นได้เอ่ยถึงมหาเศรษฐีพันล้านที่ไม่ได้มีพลังวิเศษอะไรแม้กระนั้นพลังดีเลิศที่เขามีเลยก็คือความมั่งมีของเขานั่นเอง แต่ในที่สุดแล้วเขาก็กลายมาเป็นวีรบุรุษภายใต้ชุดเกราะเหล็ก ที่ตอนแรกได้สร้างชุดนี้ขึ้นมาเป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจเอามากๆจะต้องพูดว่าองค์ประกอบของหนังรวมนักแสดงรวมทั้งอารมณ์ขันของเขาก็ทำให้หนังประสบความสำเร็จมากมายก่ายกอง3. The Shawshank Redemptionประโยคเรียบง่ายที่ลึกซึ้งในหนังแห่งนี้ที่กินใจและก็ปลุกใจ ทั้งยังเป็นแรงดลใจให้ผู้คนเยอะมากเลยก็ คือ“ความกลัวบางทีอาจจองจำพวกเรา แต่ว่าความมุ่งหวังมอบเสรีภาพให้พวกเรา”เนื้อเรื่องจะเป็นเกี่ยวกับนายแบงก์ที่โดนจับในข้อหาฆาตกรรมเมียแล้วก็ชู้รักของภรรยา ซึ่งตัวเขานั้นก็เชื่อว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์แม้กระนั้นหลักฐานต่างๆก็กลับชี้มาที่ตัวเขาหมด เพราะแบบงี้ก็เลยทำให้เขาจะต้องจำคุกชั่วชีวิตตลอดระยะเวลาตอน 19 ปีที่อยู่ในคุกเขาก็ได้พบเห็นและก็ทำความเข้าใจสิ่งต่างๆมากไม่น้อยเลยทีเดียว รวมถึงการมอบความปรารถนาให้กับคนที่อยู่รอบข้าง แล้วก็สิ่งจำเป็นก็คือการไม่หวังพึ่งในโชคชะตาแต่ว่าพากเพียรทำสิ่งหนึ่งแต่ละวันโดยไม่รอคอยให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้นเอง4. Schindler's Listหนังสะเทือนอารมณ์เรื่องหนึ่งที่ถ่ายทอดความโหดร้ายของทุ่งนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้อย่างดียิ่ง ที่สำเร็จงานของ สตีเว่น สปีลเบิร์ก แม้ทางเริ่มจะเป็นภาพสีขาวดำที่ทำให้บรรยากาศของนั้นดูคล้ำหมองและสลดหมดหวังเยอะขึ้นเรื่อยๆ แล้วยิ่งทำให้เศร้าใจเข้าไปอีกในเมื่อใช้สีแดงกับเด็กหญิงคนหนึ่ง บอกเลยนะคะว่าไม่ใช่แค่ว่าเศร้าใจเศร้าสิ่งเดียวในหนังนั้นยังมีคุณความดีของคนเราในตอนเวลาค่ำการโหดเหี้ยมอยู่เสมอ ซึ่งหนังทำออกมาก้าวหน้าจริงๆ